ชมรายละเอียด.. Honda XL 750 “Transalp” ดูอัลเพอร์โพส สูบคู่พลัง Unicam..

ปลุกชีพตำนานรหัส “Transalp” ต่อเนื่องจาก Hornet ด้วยขุมพลัง 755 ซีซี. บล็อกเดียวกับในโฉมรถดูอัลเพอร์โพสให้ใช้งานได้ครอบคลุม อุดช่องว่างระหว่างไลน์อัพ CB500X และ CRF1100L ที่สามารถนำไปลุยทั้งทางดินและทางดำได้อย่างไม่เคอะเขิน .. “ไม่ทับกับ NC750 แน่นอน”

1. สร้างมาให้มีพลัง “เต็มเม็ดเต็มหน่วย”
ไม่เหมือนกับ NC750 ที่สร้างมาเพื่อให้เดินทางบนทางเรียบได้ “นุ่มลื่น-สะดวกสบาย” เครื่องยนต์ 755 ซีซี. สูบคู่ วางองศาแคร้งจุดระเบิด 270° “Unicam – 4 วาล์ว ต่อลูกสูบ” มีการดีไซน์คาแรคเตอร์ให้ใกล้เคียงกับ Africa Twin และ CRF 450 R ที่เน้นการไหลเวียนอากาศเข้า-ออกได้อย่างคล่องตัว เดินรอบสูงได้ดีกว่าเครื่องแคมเดี่ยวของรถออฟโร้ดทั่วไป แรงระเบิดออกตัวที่หายไปเล็กน้อยเท่านั้น..

ส่วนสเปก.. กำลังสูงสุด 90.5 แรงม้า (hp) ที่ 9,500 รอบ.. แรงบิดสูงสุด 74.4 นิวตันเมตร ที่ 7,000 รอบ.. อัตราส่วนความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก เท่ากับ 87 x 63.5 มม. เห็นได้ชัดว่าระยะชักสั้นกว่าของ NC750 พอสมควร แล้วความกว้างกระบอกสูบเบิ้มๆแบบนี้ “บิดติดมือกว่าแน่นอน” ..ส่วน Slipper Clutch นี่เป็นมาตรฐานของเครื่องบล็อกนี้อยู่แล้วนะครับ

2. เลือกปรับแต่งคาแรคเตอร์ได้ ..พร้อมลุยหลายรูปแบบ
เริ่มที่คันเร่งไฟฟ้า Throttle By Wire (TBW) ที่ตอบสนองต่อการเปิด-ปิดคันเร่งได้อย่างทันควัน ไม่ต้องรอหน่วงเหมือนรถคันเร่งสาย ทำงานร่วมกับโหมดการขับขี่ถึง 5 โหมดที่มีการแมปปิ้งมาเพื่อสายเดินทางโดยเฉพาะ SPORT, STANDARD, RAIN, GRAVEL และ User Mode ให้เลือกปรับตั้งค่ารายละเอียดต่างๆได้เองตามใจชอบ ทั้ง Engine Power (EP) 4 ระดับ Engine Brake (EB) 3 ระดับ ABS 2 ระดับ และ Honda Selectable Torque Control (HSTC) อีก 5 ระดับ ซึ่งระบบ HSTC นี้ยังถูกประยุกต์เป็นระบบ Wheelie Control ด้วย รวมถึงยังเลือกเปิดหรือปิด ABS หลังได้อีกต่างหาก..

3. เทคโนโลยี + ฟีเจอร์แน่น
เต็มฟีลลิ่งทันสมัยด้วยหน้าปัดเรือนไมล์ Full Color TFT ขนาด 5 นิ้ว ที่สว่างสู้แดดยิบตา ปรับรูปแบบการแสดงผลได้อีก 3 แบบ โดยผู้ขับขี่เลือกปรับการแสดงผลข้อมูลได้ผ่านปุ่มควบคุมสไตล์จอยสติ๊กที่ประกับแฮนด์
ระบบสั่งการด้วยเสียงเอกลักษณ์ของฮอนด้าติดมาให้เป็นสแตนดาร์ด Honda Smartphone Voice Control system (HSVCs) ที่เชื่อมต่อกับโทรศัพท์ระบบแอนดรอยเท่านั้นอยู่ (IOS ใช้ได้บางฟังก์ชั่น).. จัดการสายเรียกเข้า ข้อความ ฟังเพลง หรือสั่งการระบบนำทางด้วยเสียงเพียงพูดผ่านอุปกรณ์บลูทูธที่ติดตั้งในหมวกกันน็อคเท่านั้น..

นอกจากนี้ Transalp 750 ยังมีระบบไฟฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อมีการเบรกกระทันหันที่ความเร็วมากกว่า 50 กม./ชม. พร้อมระบบปิดไฟเลี้ยวอัตโนมัติ ผ่านชุดไฟส่องสว่าง LED รอบคัน..

4. มิติรถอเนกประสงค์ ใช้งานง่าย
ด้วยเฟรมเหล็กกล้าทรงไดมอนด์น้ำหนักเบาเพียง 18.3 กก. (เบากว่าเฟรมของ CB500X) มาพร้อมมิติรถที่ “คอมแพ็ค” กับความสูงเบาะเพียง 850 มม. ถือว่าต่ำพอสมควรหากเทียบกับโมเดลอื่นๆในคลาส พร้อมระยะแฮนด์กับเบาะนั่งที่ทำให้จะนั่งหรือยืนขี่ก็ทำได้ถนัดมือ

เบาะนั่งเป็นแบบตอนเดี่ยวดีไซน์มาให้คนซ้อนนั่งเดินทางไกลได้สะดวกสบาย มีแร็คท้ายรอวางกล่องสัมภาระได้ทันที ส่วนพอร์ท USB สำหรับชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ถูกซ่อนอยู่ใต้เบาะ..

นอกจากนี้ Transalp ยังมีมิติอื่นๆที่น่าสนใจอย่างระยะ Rake & trail ที่ 27° ระยะฐานล้อ 1,560 มม. น้ำหนักตัวพร้อมวิ่งเพียง 208 กก. (ถังน้ำมันขนาด 16.9 ลิตร) และองศาการเลี้ยวที่ 42° ทำให้การยูเทิร์นในที่แคบๆทำได้ง่ายด้วยระยะเพียง 2.6 เมตรเท่านั้น

5. ระบบช่วงล่าง “All Rounder”
ด้วยระยะยุบสุดยาว 200 มม. ของโช้คอัพหัวกลับด้านหน้าจาก Showa ขนาดแกน 43 มม. SFF-CA (Separate Function Fork-Cartridge) ปรับระดับพรีโหลดได้ กับโช้คอัพหลังเดี่ยวโปรลิงค์ของ Showa เช่นเดียวกัน ระยะยุบ 190 มม. วางสวิงอาร์มองศาเดียวกับ CRF1100L Africa Twin แต่ใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียม วงล้อพร้อมยางขนาด 90/90 ขอบ 21 ด้านหน้า กับ 150/70 ขอบ 18 ด้านหลัง..ทั้งหมดนี้ทำให้ได้พื้นที่ Ground Clearance สูงถึง 210 มม.

ระบบเบรกของ Transalp จะได้ ดิสก์เบรกคู่ขนาด 310 มม. พร้อมปั๊ม 2 ลูกสูบ จาก Nissin ส่วนด้านหลังเป็นดิสก์เดี่ยวขนาด 256 มม.

เป็นการเปิดตัวไลน์อัพที่น่าสนใจมากๆสำหรับ Honda XL750 “Transalp” สายทัวร์ริ่ง-ดูอัลเพอร์โพสที่ขายดี+ฮอตฮิตสุดๆในบ้านเรา กับพละกำลังและน้ำหนักรถที่พอดีตัว ..รอติดตามว่าเมื่อเข้ามาขายประเทศไทยแล้ว ฮอนด้าจะทำราคาจะน่าสนใจมากไปกว่านี้อีกหรือไม่ ..แต่ตอนนี้กำตังค์รอไว้ก่อนครับเพื่อนๆ!!

เรื่อง: Takumi Gunn